ห้องโทนพื้นสีขาวตัดสลับลายทางสีเหลืองอ่อนดูสบายตา กลิ่นหอมจากดอกไม้ในแจกันลอยคุ้งอยู่ในอากาศให้เจ้าของซึมซับบรรยากาศในสวนดอกไม้นานาพันธุ์ เครื่องทำความร้อนทำงานสลับกับไอน้ำที่พ่นออกมา ให้ความอบอุ่นคนที่ยังคงหลับใหลไม่ได้สติ
ร่างบางถูกพาขึ้นมาตั้งแต่ช่วงบ่าย นายหญิงจัดระเบียบการเข้าออกห้องนอนของเขาอย่างแน่นหนา ให้ลูกน้องเฝ้าหน้าห้องอย่างดีและเขาสามารถเรียกใช้ได้หากขาดเหลืออะไร แม้แต่โจอี้ก็ไม่อาจเดินเฉียดเข้ามาใกล้หน้าห้องของเขา
...และคนที่ต้องเฝ้าระวังอย่างมาร์ค ยิ่งไม่มีท่าทีว่าจะได้เสนอหน้าเข้าไป
แม่นมเป็นคนสุดท้ายที่ได้เข้ามาในห้องนี้เมื่อช่วงเย็นของวัน เธอนำอาหารชุดขึ้นมาให้ พร้อมทั้งยาเม็ดบรรเทาอาการปวด ยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อ แบมแบมกินมันเข้าไปหลังจากที่แม่นมนั่งเฝ้าเขากินข้าวจนหมด
แบมแบมกินยาตามเข้าไปอย่างว่าง่าย และเพราะว่ายาแต่ละตัวออกฤทธิ์แรงถึงขนาดหายขาดได้เพียงสองวัน หากกินติดต่อกันทุกๆ4-6ชั่วโมง ฤทธิ์ของยาจึงมีผลข้างเคียงตามมาด้วย นั้นก็คือการที่แบมแบมพักผ่อนอย่างต่อเนื่องโดยไม่สนใจสิ่งเร้ารอบตัว ให้ร่างกายได้พักฟื้น รักษาบาดแผลที่เกิดขึ้นจากตราประทับ
แบมแบมหลับตลอดทั้งวัน จนกระทั้งกลางดึก...
แกร๊ก
ใครบางคนเปิดประตูเข้ามา ร่างสูงลอบมองเจ้าของเรือนร่างบอบช้ำผ่านความมืดภายในห้อง ตาคมที่ตั้งใจเพ่งมองสิ่งต่างๆในความมืดเดินหาจนในที่สุดก็คลำเจอสวิตซ์โคมไฟหัวเตียง นิ้วเรียวยาวกดเปิดอย่างรบกวนอีกฝ่ายน้อยที่สุด
แสงไฟสลัวสว่างวาบขึ้นมาเป็นสีเหลืองนวล มาร์คนั่งลงข้างเตียงใกล้แบมแบมที่ยังคงหลับใหลไม่รู้เรื่อง และทันทีที่สายตาปรับแสงได้ เขาก็สังเกตเห็นว่าแบมแบมนอนคว่ำ นั่นคงเพราะแผลที่แผ่นหลังมุมบนไหล่ด้านขวา มันคงเจ็บและระบมจนไม่อาจนอนทับไปทั้งอย่างนั้นได้
แต่ไม่ว่ามาร์คจะเข้ามาด้วยความเป็นห่วงหรือด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ คำถามแรกที่สงสัยคือเข้ามาได้ยังไง ตาคมหันกลับไปมองลูกน้องที่ยังคงยืนอยู่ข้างประตูอย่างรอฟังคำสั่ง มาร์คพยักหน้าให้ ยิ้มตอบกลับเพียงบางเบาอย่างขอบใจ
ดูเหมือนว่าความสงสัยเหล่านั้นจะกระจ่าง เมื่อลูกน้องที่แม่ออกคำสั่งเป็นลูกน้องที่เชื่อฟังเพียงเขา เขาต่างหากที่เป็นเจ้านาย นั้นเป็นคำตอบที่ว่าทำไมมาร์คถึงเข้ามาในนี้ได้ ทำไมถึงไม่มีใครรู้ ลูกน้องที่อยู่หน้าประตูมีหน้าที่ช่วยเหลือและบดบังสายตาอันแหลมคมของนายหญิงต่างหาก
ทันทีที่ภายในห้องเหลือเพียงแค่เขาทั้งสองคน มาร์คก็ได้หันกลับมาสังเกตร่างบางอีกครั้ง คิ้วเรียวยังคงขมวดเข้าหากันทั้งที่ก้มบึ้งของจิตใจหลับใหล ละสายตาเลื่อนมองลงต่ำกว่านั้นเพียงเล็กน้อย คราบน้ำตาปรากฏให้เห็นเด่นชัด
...คงเพราะเจ็บทั้งกายและใจ
ปากซีดไม่มีแม้แต่เลือดฝาดสีชมพูอ่อน ไม่มีสีเลือดแต่งแต้มให้ริมฝีปากนั้นดูมีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย แบมแบมดูป่วยมากจริงๆ แล้วไหนจะเม็ดเหงื่อที่ผลุดขึ้นตามใบหน้า แบมแบมคงกำลังต่อสู้กับมันอยู่ พิษไข้ที่เกิดขึ้นจากแผลฉกรรจ์ แบมแบมพยายามมากทีเดียวที่จะขับความอ่อนล้าออกไป
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้หยุดมองแบมแบมใกล้ๆ ลืมสังเกตไป ว่าเมื่อไหร่กันที่เด็กขี้แงคนนั้นโตพอที่จะเป็นคนของเขา ขณะที่ความรู้สึกนึกคิดกำลังสั่งการ มือหยาบก็เผลอสัมผัสเรือนร่างที่คุ้นเคย
ร่างสูงไล่นิ้วมือไปตามส่วนต่างๆอย่างสำรวจ ก่อนจะหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของนิ้วมือตัวเองแต่เพียงเท่านั้น มาร์คหยุดมือหยาบของเขาไว้ที่ข้างบาดแผลฉกรรจ์ แม้ว่าจะมีเสื้อยืดตัวบางสวมทับเอาไว้ แต่เลือดก็ยังซึมออกมาให้ได้เห็น
...เจ็บมากเลยสินะ
ร่างกายกับหัวใจ...ตอนนี้อะไรสาหัสกว่ากัน
มือหยาบผละออกจากบาดแผล กดลูบศีรษะบางเพียงแผ่วเบา ชั่วอึดใจที่มาร์คใช้ความคิด แต่แล้วความรู้สึกก็อยู่เหนือทุกสิ่ง ร่างสูงโน้มตัวลงต่ำคล้ายนอนราบทับคนที่นอนคว่ำ แต่ยังไม่ทันที่ร่างกายของทั้งคู่จะสัมผัส ปากหยักก็สัมผัสเข้ากับแผลฉกรรจ์เสียก่อน
จูบนี้จะทำให้หายเร็วขึ้นหรือเปล่า?
หรือมันจะปลุกให้เจ้าของบาดแผลนั้นได้สติ
เห็นจะเป็นอย่างหลัง..
เมื่อแบมแบมขยับตัวคล้ายถอยหนีสิ่งรบกวน ตาบวมยกเปลือกตามองเบื้องหน้า และเพราะสิ่งที่ได้เห็นสวนทางกับความเป็นจริง หางตาของเขาคล้ายเห็นว่าใครนั่งอยู่ข้างกาย เขาไม่ควรได้เจอมาร์คในห้องนี้ และเพียงสิ่งที่คุ้นเคยร้องทักแบมแบมก็สะดุ้งรับล้มลุกคุกคลานขึ้นมานั่ง
“ฉันปลุกนายหรือเปล่า?”
น้ำตาที่เหือดแห้งกลับมาเอ่อคลอเบ้าทันทีที่สายตาจับจ้องและมองเห็นคนตรงหน้าได้ถนัด เสียงที่ได้ยินนั้นทำให้แขนและขาทำงานสัมพันธ์กัน มันถอยหนีมาร์คอย่างล่วงรู้ว่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้คืออะไร
“พี่มาร์ค! อ๊ะ..”
เสียงแหบซ่านเอ่ยเรียกก่อนที่แผ่นหลังของเขาจะชนเข้ากับหัวเตียง ร่างบางร้องออกมาก่อนจะเก็บกลืนเสียงของตัวเองเอาไว้ แม้ว่าตัวเองจะไม่สบายแต่แบมแบมก็ยังไม่ลืมที่จะเป็นห่วงมาร์ค
หากส่งเสียงดัง ทุกคนก็จะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ
หากโดนจับได้ว่ามาร์คแอบเข้ามาในห้องนี้..เขาจะทำให้มาร์คต้องเดือดร้อน
“ขะ..เข้ามาได้ยังไงครับ? ถ้านายหญิงรู้พี่มาร์คจะโดนดุ”
แบมแบมควบคุมตัวเองได้ดี แทนที่จะโวยวายเหมือนทุกครั้ง แต่เพราะในเวลานี้มันสุ่มเสี่ยงเกินไปที่ใครอาจจะได้ยิน แบมแบมจึงเลือกที่จะทำใจดีสู้เสือ ร่างบางรู้ว่าหากมาร์คขัดคำสั่ง มาร์คจะต้องถูกทำโทษ
“ชู่ววว ก็อย่าให้รู้สิ”
มือหยาบยกนิ้วแตะกลีบปากอีกฝ่าย ส่งเสียงปรามให้แบมแบมพูดเบาๆ
“แบมขอโทษครับ..ฮึก”
ทั้งที่พยายามแล้วว่าจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่เพียงมาร์คเริ่มออกคำสั่งอีกครั้ง น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาอย่างรู้เวลา
“ขอโทษฉัน เรื่องอะไร?”
“ตอนนั้นแบมน่าจะพูด..ฮึก น่าจะพูดว่าพี่มาร์ครักพี่จินยองไม่ใช่แบม ขอโทษนะครับที่ทำให้เรื่องวุ่นวาย..ฮึก..”
หน้ามนก้มลงต่ำมองหน้าขาตัวเองที่ตอนนี้ถูกบดบังด้วยกางเกงผ้าฝ้ายสีกรม รู้สึกผิดที่ตอนนั้นเขาไม่มีสติมากพอที่จะอธิบายให้ใครต่อใครฟัง รู้สึกผิดที่ทำให้มาร์คคลาดกับจินยองอีกครั้ง และครั้งนี้เหมือนจะใหญ่หลวงนัก
มาร์คอาจต้องคลาดกับจินยองตลอดไป
เพราะตราประทับบนตัวเขา..และกำหนดการแต่งงานที่กำลังจะมาถึง
มาร์คคงผิดหวัง...
“ขอโทษทำไม ฉันไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นสักหน่อย”
ร่างสูงขยับเข้าไปใกล้เสียจนแบมแบมไม่อาจถอยหนี น้ำเสียงที่ตอบรับตรงกันข้ามกับสิ่งที่แบมแบมคิด สายตาที่สื่อความหมายบางอย่างกำลังสะกดจิตใจร่างบางให้ค่อยๆคล้อยตามทีละน้อย
และเพียงชั่ววิที่สายตาต้องกัน ปากหยักก็ถือวิสาสะขโมยจูบริมฝีปากที่คุ้นเคย จุมพิตนั้นทำให้แบมแบมหยุดชะงักไป มันไม่ทันตั้งตัวและยังไม่ทันได้เตรียมใจที่จะถูกมาร์คชักจูงอีกครั้ง ปากหยักพรมจูบไปทั่วทั้งซอกคอขาว แต่งแต้มสีแดงอมชมพูฝากรอยรักทับรอยเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำตามความต้องการของตัวเอง จนลืมสังเกตไปว่าแบมแบมกำลังร้องไห้
แบมแบมกำลังคิดอีกครั้งว่าตัวเองไม่มีค่า...
“พี่มาร์ค..ฮึก ปล่อยแบมไปเถอะครับ”
“อื้มมม”
เสียงครางต่ำไม่แม้แต่จะสนใจคำพูดเดิมๆที่แบมแบมมักจะพูดในช่วงหลังๆมานี้ ไม่สนใจความรู้สึกฝืนทนที่แบมแบมมักแสดงออกมาให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในเวลาที่เราร่วมรักกัน
“แบมไม่เหมาะกับตำแหน่งนี้หรอกครับ”
“ทำไมหล่ะ? นายอยากได้มันมาตลอดไม่ใช่หรอ ฉันก็แค่ช่วยให้นายสมปรารถนา..”
ปากหยักที่คลอเคลียอยู่ตามซอกคอ ผละออกมาเมื่อแบมแบมดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องราวทุกอย่างถึงได้กลายมาเป็นแบบนี้
“ถ้าพี่มาร์คไม่ได้รักแบม..ก็ปล่อยแบมไ..ป..”
“แล้วถ้าฉันบอกว่ารักหล่ะ?”
“คะ..ครับ?”
คิ้วคันศรขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ ไม่มีทางที่มาร์คจะรักเขา เพราะแบมแบมรู้อยู่เต็มอกว่ามาร์คทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น มาร์คเกลียดเขา...และมาร์ครักจินยอง
มาร์คกำลังหลอกแบมแบมอีกครั้ง...
“ถ้าฉันบอกว่ารัก นายจะอยู่เคียงข้างฉันได้ไหม?”
คล้ายทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหยุดเคลื่อนไหว คำว่าโลกของเรามีแต่เขาเห็นจะเป็นเรื่องจริง แบมแบมหลงรักมาร์คจนโงหัวไม่ขึ้น เพียงชั่ววิที่แบมแบมนึกเข้าข้างตัวเอง แต่แล้วก็เหมือนต้องตื่นขึ้นมาจากความฝัน
เมื่อแบมแบมไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป
“แต่ความจริงก็คือพี่มาร์คไม่ได้รักแบม..ฮึก.. พี่มาร์ครักพี่จินยอง เพราะถ้าพี่มาร์ครักแบม แบมก็คงไม่เป็นแบบนี้ แบมไม่มีความสุขเลยสักนิดที่แบมเป็นได้แค่ตัวแทนของเขา แบมถึงยอมแพ้ ยอมแพ้พี่มาร์คแล้วไงครับ..ฮึก..แบมยอมแพ้แล้ว..บะ..แบมยอมทุกอย่าง เลิกแก้แค้นสักทีเถอะครับ..แบมเหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว..ฮึก..เพราะต่อให้พี่มาร์คฆ่าแบมให้ตาย..พวกเขาก็ยังรักกัน”
เสียงแหบซ่านสะอึกสะอื้นขอร้องให้มาร์คหยุดทุกอย่าง แค่เพียงแบมแบมเจ็บปวดก็เพียงพอแล้วสำหรับการแก้แค้นครั้งนี้ ให้พี่ชายของเขาได้มีความสุขกับคนที่เขารัก ให้แบมแบมได้ไปตามทางของตัวเอง และมาร์คก็ยังมีตัวเลือกอีกมาก คงได้เจอคนที่ถูกใจเข้าสักวัน
“กันต์พิมุกต์ต่อจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่การแก้แค้น การแก้แค้นมันจบไปแล้วนายได้ยินไหม?”
“แต่ทำไมแบมกลับรู้สึกว่ามันเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น..ทำไมแบมกลับรู้สึกว่าแบมต้องได้รับผลกรรมมากกว่านี้..ทำไมแบมกลับรู้สึกว่าพี่มาร์คยังไม่พอใจ..”
“ลืมเรื่องแก้แค้นไปซะ..ต่อจากนี้ระหว่างเราสี่คน ทางใครทางมัน”
ปากหยักคล้ายจะจรดลงบนปากบางอีกครั้ง แต่แบมแบมก็ไม่ยอม แม้ว่าเขาจะมีกำลังเพียงน้อยนิด
“งั้นพี่มาร์คก็ปล่อยแบมไปสิครับ..ฮึก..หะ..ให้แบมได้มีชีวิตของแบม”
“ตราประทับมันอยู่บนแผ่นหลังของนายแล้ว ชื่อของฉันผูกชีวิตของนายไว้กับฉันทั้งชีวิต มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกที่นายจะหลุดพ้น”
“งั้น..พะ..พี่มาร์คบอกนายหญิงสิครับ บอกท่านไปตามตรงให้มันจบลงแค่นี้ ถ้าพี่มาร์คเป็นคนพูด..นายหญิงต้องยอมแน่..ฮึก..นะครับพี่มาร์ค ช่วยแบมนะครับ”
ร่างบางแทบจะโน้มตัวลงกราบ แบมแบมอ้อนวอนให้มาร์คเห็นใจเขา แต่มาร์คกลับไม่ยอมโอนอ่อน เพียงแค่พูดออกไปตรงๆมันกลับยากนักในเวลานี้ ได้แต่อ้างเหตุผลว่าทำไมแบมแบมถึงต้องอยู่ที่นี่ต่อไป
จะให้เขาบอกยังไง..ว่าใจมันรัก
รักมากเหลือเกิน..
“แล้วรู้หรือเปล่าว่าม๊าอยากได้ใครเป็นสะใภ้ ที่ม๊าทำแบบนี้ก็เพราะว่าม๊าอยากได้นายเป็นสะใภ้ ม๊าไม่ยอมปล่อยนายไปง่ายๆหรอก”
“แล้วทำไมต้องเป็นแบมหล่ะครับ..”
ตาคมมองเข้าไปในตาของอีกฝ่ายอย่างต้องการคำตอบ นึกถามว่าทำไมคนที่ต้องรองรับทุกการกระทำถึงต้องเป็นเขา แต่เหมือนว่ามาร์คจะไม่ทันได้ฟัง เมื่อมือหยาบรวบตัวแบมแบมให้เขยิบเข้ามาใกล้ พรมจูบไปตามลาดไหล่บนเนื้อหนังที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวบาง
แบมแบมดูอ่อนแอมากเมื่อเขาอยู่ต่อหน้ามาร์ค
แบมแบมไม่กล้าแม้แต่จะขัดขืนมาร์คเลยด้วยซ้ำ..
“ก็เพราะว่านายน่ารัก นอบน้อม เชื่อฟัง มีมารยาทในการเข้าสังคม เป็นที่รักของผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วก็เป็นที่รักของ...”
“อื้มม พี่มาร์ค..อะ..อย่าครับ แบมยังเจ็บ..อ๊ะ..”
แบมแบมร้องเสียงหลงเมื่อมาร์คจงใจไล่ฝ่ามือลงต่ำ มือหยาบสัมผัสส่วนอ่อนไหวใต้ร่มผ้าอย่างบังคับให้แบมแบมยอมร่วมรักกับเขา มาร์คเล้าโลมจนร่างบางหลุดเสียงครางออกมา ก่อนที่เขาจะพูดประโยคสำคัญ
“และที่สำคัญ..ม๊าอยากได้หลาน”
“แล้วทำไม..ฮึก..อื้มม..ตะ..ต้องเป็นแบม พะ..พี่จินยองก็มีหลานให้นายหญิงได้”
“แล้วทำไมต้องสงสัย.. แค่ฉันเลือกนาย มันไม่ใช่คำตอบสุดท้ายหรอ?”
ชักจะหมดความอดทนเมื่อแบมแบมทำตัวเป็นเด็กขี้สงสัย ถามนั่นถามนี่จนเขาเผลอพลั้งมือลงไป มาร์คล้วงเข้าไปใต้กางเกงผ้าฝ้ายก่อนจะกอบกุมส่วนอ่อนไหวเรียกเสียงครางแบมแบมได้อีกครั้ง
“อ๊ะ..พี่มาร์ค..แบมอื้มมม”
บทรักเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเมื่อแบมแบมไม่มีแม้แต่แรงที่จะต้าน เสียงเล็กครางระงมฟังไม่ได้ศัพท์เมื่อมาร์คไม่ยอมปล่อยให้เขาได้เป็นอิสระ ขาเรียวที่ชันขึ้นเริ่มขัดหนีบเข้าหากันเมื่อความต้องการรุมเร้าขึ้นมาจนคับอก
มือเล็กได้แต่ยันที่นอนเอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองล้มนอนลงไป ไร้ฟันขบกัดริมฝีปากตัวเองระงับความเสี่ยวซ่านที่มาร์คพยายามปลุกเร้า
“อ๊ะ..พะ...พี่มาร์ค..อื้มมมม”
จนในที่สุดหัวใจก็ไม่อาจเอาชนะความต้องการ แบมแบมถึงฝั่งฝันครางร้องออกมาจนสุดเสียงก่อนที่มาร์คจะดึงเขาเข้าไปกอด เสียงหอบหายใจรดต้นคอให้มาร์คได้ยิน แบมแบมกำลังทนอีกครั้งเพื่อให้มาร์คได้มีความสุข
มือหยาบลากผ่านสาบเสื้อด้านข้างก่อนจะถอดมันออกไปให้พ้นหูพ้นตา แผลฉกรรจ์ประจักษ์สู่สายตาให้มือหยาบสัมผัสมันเพียงแผ่วเบา ก่อนจะถามด้วยความห่วงใย
“เจ็บมากไหม?”
เสียงเข้มถามสวนทางกับเสียงสะอื้น แบมแบมกระชับกอดอีกฝ่ายอย่างโหยหาอ้อมกอดและน้ำเสียงที่อบอุ่น นานแค่ไหนแล้ว..คงตั้งแต่เกิดเรื่อง ที่มาร์คไม่เคยใช้น้ำเสียงเป็นห่วงเขา ร่างเล็กพยักหน้าผงกหัวไปมาทั้งที่ยังซบลงบนไหล่กว้าง และการตอบรับก็คือฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบบนศีรษะของเขา
มาร์คจะรู้ไหม..ว่าไม่ว่ามาร์คจะจริงใจหรือหลอกลวง
มันทำให้แบมแบมดีใจมากเหลือเกิน..ที่ถูกปฏิบัติอย่างอ่อนโยน..
สายตาสบพบกันทันทีที่มาร์คผละแบมแบมออกจากอ้อมกอด ไม่มีบทสนทนาใดๆระหว่างเรา มาร์คทำเพียงแค่ยกยิ้ม รอยยิ้มบางเบาตราตรึงในใจสะกดให้แบมแบมเชื่อฟัง
มาร์คจัดการกับตัวเองก่อนจะนอนลงบนเตียง ออกแรงดึงให้แบมแบมโถมตัวลงมานอนคว่ำบนตัวของเขา คงเพราะมันอาจจะลำบากสักหน่อยที่แบมแบมไม่สามารถนอนหงายบนเตียงได้ในเวลานี้
ร่างบางโน้มตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย น้ำตาที่ไหลออกมาถูกเช็ดด้วยนิ้วหัวแม่มือของคนพี่ ก่อนจะกดท้ายทอยร่างบางลงต่ำ ให้เขาสามารถจูบจุมพิตแผ่วเบาได้อีกครั้ง แบมแบมหลับตาลงผ่อนคลายจิตใจที่ร้อนรุ่มให้เย็นลง ปล่อยตัวปล่อยใจให้เจ้าของหัวใจของตัวเองอีกครั้ง
หรือไม่ว่ามาร์คจะทำร้ายร่างกายและจิตใจของแบมแบมอีกสักกี่ครั้ง
คำตอบก็จะยังเป็นเช่นเดิม...
แบมแบมไม่เคยเปลี่ยน..และไม่เคยคิดที่จะปันใจให้ใคร...
“อ๊ะ..อือออ”
ปลายลิ้นซุกไซร้ควานหาความหอมหวานในโพรงปาก ลิ้นสีแดงอมชมพูเกี่ยวกวัดเข้าหากันอย่างโหยหา จนแบมแบมแทบจะยั้งตัวเองไว้ไม่อยู่ เมื่อมาร์คปลุกเร้าเขาด้วยการนวดคลึงสะโพกมน
เสียงครางร้องอ้อนร่างสูงเป็นระยะ แต่เรียวปากบางก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะตามรับลิ้นร้อนของมาร์ค แบมแบมทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเสมอ ยิ่งตอนนี้เหมือนมาร์คค่อยๆฟื้นฟูสภาพจิตใจของเขาไปพร้อมๆกับยาเม็ดที่ฟื้นฟูสภาพร่างกาย
“อ๊ะ..พี่มาร์คตรงนั้น..อื้มมม”
แบมแบมกระตุกเกร็งทันทีที่มาร์คเปลี่ยนเป้าหมาย นิ้วร้อนลอดผ่านเข้ามาแตะผนังด้านใน ช่องทางรักตอบรัดเรียวนิ้วนั้น ก่อนที่มาร์คจะเพิ่มนิ้วเป็นสองและสามตามลำดับ และทันทีที่มาร์คละเรียวนิ้วออกจากกาย แบมแบมก็ผละริมฝีปากออกแล้วลุกขึ้นนั่ง
ขาเรียวชันเข่าค่อมร่างสูงพลางพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเขาพร้อม มาร์คคลี่ยิ้มให้เพียงแผ่วเบา ก่อนใช้มือหยาบปลุกความเป็นชายของตัวเองให้แข็งขืน รูดรั้งเพียงสองสามครั้งก่อนที่จะจ่อรอเข้าไปที่ปากทาง
“อ๊ะ..”
ร่างบางยกตัวเองขึ้นก่อนจะกดกระแทกลงไป บาดแผลที่ยังไม่หายขาด ฉีดขาดห่อเลือดเปรอะเปื้อนหน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เสียงเล็กครางระงมรับความเสี่ยวซ่านที่มาร์คมอบให้ ไร้ฟันกัดริมฝีปากล่างตัวเองอย่างพยายามอดทนสู้แกนกายที่แข็งขืน
ร่างสูงยกยิ้มละมุนนุ่มลึก พลางเอื้อมมือปาดเม็ดเหงื่อให้แบมแบม ร่างบางขยับขึ้นลงอย่างไม่รู้ประสา จนมาร์คต้องอาสาช่วย มือหยาบยกจับสะโพกบางก่อนจะช่วยประคองเพราะแบมแบมดูท่าว่าจะไม่ไหว
“อ๊ะ...อะ...ฮึก..อื้มมม..พะ..พี่มะ..มาร์ค..บะ...แบม..”
ร่างบางสั่นสะท้านทุกครั้งที่ร่างสูงจงใจยกสะโพกของเขาขึ้นสูงและกดกระแทกกลับเข้าไปจนสุด มันเสี่ยวซ่านปนเข้ากับความรู้สึกเบาสบาย แบมแบมรู้สึกดีที่เขากับมาร์คมีทีท่าว่าจะเข้าใจกัน
“ฮึก...พะ...พี่มาร์คครั..ครับ...บะ..แบม..อื้มมมมแบม”
ร่างบางส่ายหน้ารัวเมื่อมาร์คเร่งจังหวะจนถึงที่หมาย ร่างสูงกระตุกเกร็งสวนเข้าไปอีกเพียงสองสามทีหลั่งน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักที่คุ้นเคย ทันทีที่มือหยาบปล่อยออกจากการจบกุมช่วงสะโพก แบมแบมก็หมดแรงล้มพับลงบนอกแกร่ง เสียงหายใจรวยระรินบอกว่าร่างบางอ่อนล้ามากเหลือเกิน
ท่ามกลางห้องสีนวลที่เงียบสงบ ร่างทั้งสองกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง มาร์คพรมจูบซับเหงื่อให้ร่างบางอย่างทะนุถนอม และแบมแบมเองก็ยอมให้มาร์คได้ทำตามอำเภอใจ อย่างน้อยเขาก็ยังมีค่าในสายตาของมาร์ค
ถึงแม้จะเป็นเพียง...บางครั้งบางคราวที่มีค่า
ถึงแม้จะเป็นเพียง...ตัวแทนของจินยอง
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบอกมาร์คว่าแบมแบมหลับไปแล้ว ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน มาร์คหลับตาลงครุ่นคิดต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง
เมื่อไหร่กัน...ที่เขาควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้
เมื่อไหร่กัน...ที่แบมแบมมีผลต่อสภาพจิตใจของเขา
เมื่อไหร่กัน...ที่เขาอยากตื่นมาเจอแบมแบมเป็นคนแรก
...และเข้านอนไปพร้อมๆกัน
“เรา..แต่งงานกันนะกันต์พิมุกต์”
*******************************************************************
Writer Talk:
อ่านจบแล้วกลับไปเม้นในเด็กดี ละก็อย่าลืมติดแท็ก #มาร์คแบมแรงรัก ให้เค้าด้วยนะก๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น